พระองค์เจ้านโรดม นรินทเดช (Norodom Norindeth) เป็นเชื้อพระวงศ์ในสายสกุลนโรดมของ
กัมพูชา และเป็นนักการเมืองระหว่าง พ.ศ. 2483 – 2503 เป็นผู้ก่อตั้ง
พรรคเสรีภาพที่เป็นพรรคการเมืองพรรคแรกในกัมพูชา
[1]พระองค์มจะ นโรดม นรินทเดช ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2449 เป็นพระโอรสของพระองค์เจ้านโรดม สัตถาวงศ์ ประสูติแต่พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ ปิ่นดาราสุทธาเรศ และเป็นพระราชนัดดาของ
พระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ กษัตริย์กัมพูชา สำเร็จการศึกษาจาก
มหาวิทยาลัยปารีส หลังจากที่
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2484 พระองค์มจะ นโรดม นรินทเดช ได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการขึ้นครองราชสมบัติ เช่นเดียวกับ
สมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ และ
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต แต่ในที่สุด ฝรั่งเศสเลือก
นักองค์ราชวงศ์ นโรดม สีหนุ ซึ่งมีพระชนมายุ 19 พรรษาเป็นกษัตริย์
[2] โดยพระองค์มจะ นโรดม นรินทเดช เป็นสมาชิกของคณะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินใน พ.ศ. 2489 พระองค์มจะ นโรดม นรินทเดช ได้ก่อตั้งพรรคเสรีภาพหรือชื่อเดิมคือพรรครัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกของกัมพูชา พรรคนี้นิยม
ฝรั่งเศส และสนับสนุนการปกครองตัวเองโดยยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฝรั่งเศส พระองค์ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชนชั้นสูง กลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์ และชนกลุ่มน้อย
ชาวจาม[1] นโยบายของพรรคตรงข้ามกับ
พรรคประชาธิปไตยของนักองค์มจะ
สีสุวัตถิ์ ยุทธวงศ์ และ
เอียว โกเอียส ซึ่งเป็นพรรคที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มหัวรุนแรงและเรียกร้องเอกราช ทำให้พรรคเสรีภาพได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสที่ต้องการคงอำนาจของตนไว้ในกัมพูชา พรรคประชาธิปไตยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งแรกและได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ จนกระทั่งเอียว โกเอียส ถูกลอบสังหารใน พ.ศ. 2493 และมีผู้ตั้งข้อสงสัยมายังพรรคเสรีภาพของพระองค์มจะ นโรดม นรินทเดช
[3]ทำให้พระองค์ต้องลี้ภัยไป
ปารีส เพราะมีหลักฐานว่าพระองค์มีความเกี่ยวข้องกับผู้ร้าย.
[4] พรรคเสรีภาพมีอำนาจในสภาระยะหนึ่งเพราะความปั่นป่วนภายในพรรคประชาธิปไตยพระองค์มจะ นโรดม นรินทเดช กลับสู่กัมพูชาใน พ.ศ. 2494 พระองค์ออกจากพรรคเสรีภาพมาเข้าร่วมกับ
พรรคสังคมของพระนโรดม สีหนุ ที่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2498 หลังจากนั้น ได้เป็นตัวแทนถาวรของกัมพูชาใน
ยูเนสโก[5] และได้เป็นเอกอัครราชทูตระจำ
ยูโกสลาเวีย (พ.ศ. 2504 – 2506) และ
พม่า (พ.ศ. 2507 – 2510) หลังจาก
เขมรแดงยึดกรุง
พนมเปญได้ พระองค์เป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ถูกเขมรแดงสังหาร
[6]